“กรมการข้าว ซึ่งรับผิดชอบในการพัฒนาภาคการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน จะร่วมและสนับสนุนการดำเนินโครงการข้าวไทย NAMA” – นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าวกล่าว
ประเทศเยอรมนีและสหราชอาณาจักร เลือกสนับสนุนโครงการ NAMA จำนวน 7 โครงการจากการประกาศให้ทุนในครั้งที่ 4 หนึ่งในนั้น คือ โครงการการปลูกข้าวตามแนวทางที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในประเทศไทยหรือโครงการข้าวไทย NAMA โดยโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจาก NAMA นี้ จะได้รับเงินทุนสำหรับการเตรียมรายละเอียดการดำเนินโครงการเพื่อคัดเลือกต่อไป โดยประเทศเยอรมนีและสหราชอาณาจักร มีความมุ่งมั่นที่จะให้เงินทุนถึง 60 ล้านยูโร (ประมาณ 2,200 ล้านบาท) สำหรับโครงการที่เข้ารอบตามการประกาศให้ทุนในครั้งที่ 4 นี้ ในตอนท้ายของขั้นตอนการเตรียมรายละเอียดของโครงการ “โครงการ NAMA” หรือ NAMA Facility จะตัดสินเลือกโครงการเพื่อสนับสนุนให้ดำเนินโครงการต่อไป โดยอาศัยการประเมินผลรายละเอียดของโครงการที่ยื่น
กระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ การก่อสร้างและความปลอดภัยทางปรมาณูแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMUB) และกระทรวงธุรกิจ พลังงาน และยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม (BEIS) แห่งสหราชอาณาจักร ร่วมกันจัดตั้ง NAMA Facility เพื่อสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ในการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและดำเนินมาตรการที่เหมาะสมในการบรรเทาผลกระทบต่อภูมิอากาศอย่างสำคัญในระดับประเทศ (Nationally Appropriate Mitigation Actions หรือ NAMA) โครงการข้าวไทย NAMA ถูกเสนอเข้าร่วมการคัดเลือก จากความร่วมมือกันระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ GIZ
เกษตรกรรมเป็นภาคที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) มากที่สุดเป็นอันดับที่สองของประเทศไทย ในขณะเดียวกันยังมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ การผลิตข้าวในประเทศไทยไม่เพียงแต่ก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซเกือบร้อยละ 60 จากกิจกรรมทางการเกษตรแต่ยังนับเป็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกมากเป็นอันดับที่สี่ของโลก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน
ตามข้อมูลระหว่างปี พ.ศ. 2537 ถึง 2556 ประเทศไทยจัดเป็นประเทศอันดับที่ 11 ที่ได้รับผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศมากที่สุด ด้วยการให้สัตยาบันต่อข้อตกลงปารีสในเดือนกันยายนปี พ.ศ. 2559
รัฐบาลไทยได้แสดงความมุ่งมั่นที่จะมีส่วนร่วมในความพยายามที่จะบรรลุการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก “กรมการข้าว ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นสมาชิกของคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการพัฒนาภาคการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน จะร่วมและสนับสนุนการดำเนินโครงการข้าวไทย NAMA” นายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าวกล่าว
เวทีเพื่อการผลิตข้าวอย่างยั่งยืน (Sustainable Rice Platform – SRP) ภายใต้ความร่วมมือระหว่างโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UN Environment) และสถาบันวิจัยข้าวระหว่างประเทศ (IRRI) ร่วมจัดประชุมเพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรในภาคการผลิตข้าวทั่วโลก โดยได้แนะนำมาตรฐานการปลูกข้าวอย่างยั่งยืนโดยความสมัครใจมาตรฐานแรกของโลก มาตรฐาน SRP นี้ กำหนดกรอบสำหรับการปลูกข้าวที่ทันสมัยที่นำไปสู่ผลกำไรสุทธิ ผลผลิตที่สูงขึ้น ความปลอดภัยของอาหาร เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร และที่สำคัญ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
โครงการ ข้าวไทย NAMA จะสนับสนุนชาวนาถึง 100,000 ครัวเรือนในประเทศไทย ให้เปลี่ยนจากการทำนาแบบเดิมมาสู่วิธีการแบบใหม่ที่ลดการปล่อยก๊าซ โดยร่วมมือกับเกษตรกรและสมาคมเกษตรกรต่างๆ รวมทั้งผู้ให้บริการภายนอก (เช่น การให้บริการการปรับพื้นนา) ในการปรับแนวทางการเกษตรกรรมและพัฒนารูปแบบการสร้างแรงจูงใจที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงิน โครงการข้าวไทย NAMA จะมุ่งเน้นไปที่หกจังหวัดนำร่องทางภาคกลางของประเทศไทย คือ จังหวัดชัยนาท อ่างทอง ปทุมธานี สิงห์บุรี อยุธยา และสุพรรณบุรี และมีแผนที่จะส่งเสริมให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับชาติและระดับภูมิภาคต่อไป
ในการเพาะปลูกข้าวที่มีการชลประทาน การเปลี่ยนจากวิธีแบบเดิมมาสู่การจัดการน้ำเปียกสลับเเห้งในเเปลงนา (Alternate Wetting and Drying) และ การปรับพื้นที่นาด้วยเลเซอร์ สามารถลดการปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งคาดว่าจะสามารถหลีกเลี่ยงการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (Carbon dioxide equivalent หรือ CO2e) ถึง 1.664 ล้านเมตริกตันสะสมในช่วงการดำเนินโครงการ 5 ปี และบรรเทาผลกระทบเพิ่มขึ้นอีกในแต่ละปี โดยลดการปล่อยก๊าซจากนาข้าวชลประทานที่ทำการวัดในตอนต้นลงมากกว่าร้อยละ 26
ในการประกาศให้ทุนในครั้งที่ 4 นี้ โครงการที่ส่งเข้าสมัครล้วนแสดงให้เห็นว่าทั่วโลกได้ตระหนักและสนับสนุนมาตรการที่มีเป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซ รัฐบาลแต่ละประเทศได้อ้างอิงถึง “แผนสนับสนุนในระดับประเทศอย่างมุ่งมั่น” (Nationally Determined Contributions หรือ NDCs) ของตน และข้อตกลงปารีสในโครงการที่ส่งเข้าสมัคร จึงสามารถช่วยให้บรรลุตามแผน NDCs ภายใต้ข้อตกลงปารีส
NAMA Facility ได้เลือกสนับสนุนทั้งสิ้น 7 โครงการด้วยการให้ทุนสำหรับการเตรียมรายละเอียดของโครงการ ประเทศที่ได้รับการสนับสนุนในขั้นตอนนี้ประกอบด้วย บราซิล เม็กซิโก (2 โครงการ) ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย ตูนิเซีย และยูกันดา