กองทุนภูมิอากาศสีเขียว (GCF) สนับสนุนเงินทุน 38 ล้านยูโร เพื่อส่งเสริมการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศในไทย
![](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/10/Screen-Shot-2564-10-22-at-20.28.01.png)
- ภายใต้การดำเนินการของโครงการเพิ่มศักยภาพการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ (Thai Rice GCF) ตลอดทั้ง 5 ปี จะส่งผลดีแก่ชาวนารายย่อยกว่า 250,000 ราย รวมทั้งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรกรรมของไทยได้มากกว่า 2.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2eq)
ในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566 องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) และกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (Green Climate Fund: GCF) ร่วมลงนามเอกสารข้อตกลงการดำเนินโครงการเพิ่มศักยภาพการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ (Thai Rice GCF) ซึ่งเสนอโดยองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ในฐานะหน่วยงานปฏิบัติการที่ได้รับการรับรอง หลังจากที่โครงการฯ ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของ GCF ในการประชุมครั้งที่ 37 ณ เมืองทบิลีซี ประเทศจอร์เจีย
กองทุนภูมิอากาศสีเขียวเป็นกลไกทางการเงินภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งถือเป็นกองทุนด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ใหญ่ที่สุดในระดับนานาชาติ มีพันธกิจในการสนับสนุนเงินทุนแก่โครงการที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในประเทศที่กำลังพัฒนา เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (NCD) ให้เป็นไปตามความตกลงปารีส เงินทุนดังกล่าวนำมาใช้สนับสนุนโครงการที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่นเดียวกับโครงการที่ส่งเสริมการปรับตัวและลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
โครงการเพิ่มศักยภาพการปลูกข้าวที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ (Thai Rice GCF) มีจุดมุ่งหมายในการส่งเสริมการทำนาที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่ำ และเสริมสร้างศักยภาพในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Resilience) ภายใต้ระยะดำเนินการของโครงการ 5 ปี คาดว่าจะสามารถเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนและลดความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของชาวนารายย่อยจำนวน 250,000 ราย อีกทั้งจะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำนาได้ประมาณ 2.4 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า (CO2eq) โดยโครงการ Thai Rice GCF ผลักดันทั้งการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและลดผลกระทบแก่ชาวนาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
![Mafalda Duarte, Executive Director of the Green Climate Fund and Ms Katja Kammerer, Head of Department at GIZ, present signed copies of the Funded Activity Agreement for Thai Rice GCF during the 37th Meeting of the GCF Board in Tbilisi, Georgia](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/10/02-6.jpg)
คุณมาฟาลดา ดูอาร์เต (Mafalda Duarte) ผู้อำนวยการบริหารกองทุนภูมิอากาศสีเขียว (GCF) และคุณคัทย่า คัมแมร์เรอ (Katja Kammerer) หัวหน้าฝ่ายโครงการ Green Climate Fund องค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) ประจำสำนักงานใหญ่ ร่วมแสดงเอกสารลงนามข้อตกลงการดำเนินโครงการ Thai Rice GCF ในการประชุมคณะกรรมการ GCF ครั้งที่ 37 ณ เมืองทบิลีซี ประเทศจอร์เจีย
โครงการ Thai Rice GCF ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนาผ่านการปรึกษาหารือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และดำเนินการตามการให้เหตุผลแบบอุปนัย (bottoms-up logic) ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลจากความน่าจะเป็น โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพเกษตรกรรายย่อยที่เปราะบางให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้นเมื่อเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสนับสนุนการเข้าถึงเทคโนโลยีที่เท่าทันต่อภูมิอากาศ
กองทุนภูมิอากาศสีเขียว (GCF) อนุมัติเงินสนับสนุน 38 ล้านยูโร แก่โครงการฯ โดยมีงบประมาณสมทบจากหน่วยงานภาคีภาครัฐของไทย ได้แก่ กรมการข้าว ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (BMZ) และหน่วยงานภาคเอกชน
คุณแอนน่า ฮอมมาส (Ina Hommers) ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานแหล่งทุนและพัฒนาโครงการของ GIZ กล่าวว่า “โครงการ Thai Rice GCF ประสบความสำเร็จในการเสริมสร้างความร่วมมือและเพิ่มความไว้วางใจระหว่าง GCF และ GIZ”
![Mr Pavich Kasawong, Deputy Director-General of Thailand’s Department of Climate Change and Environment, delivers remarks via videoconference.](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/10/03-6.jpg)
คุณปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) ร่วมกล่าวแสดงความยินดีผ่านการประชุมออนไลน์
คุณปวิช เกศววงศ์ รองอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม (สส.) กล่าวว่า “โครงการ Thai Rice GCF มีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในภาคส่วนข้าวไทย โดยจะบรรลุผลสำเร็จได้ด้วยการเปิดตัวแนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรที่ยั่งยืนและคำนึงถึงสภาพอากาศในวงกว้าง ซึ่งท้ายที่สุดจะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรหลายพันรายทั่วประเทศไทย”
การดำเนินงานโครงการฯ คาดว่าจะเริ่มในปี พ.ศ. 2567 และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2572
![Representatives from the Thai Rice Department, OLAM, and GIZ participated in the signing ceremony via videoconference from Bangkok.](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/10/04n.jpg)
ตัวแทนจากกรมการข้าว โอแลม และองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมันประจำประเทศไทย ร่วมพิธีลงนามเอกสารข้อตกลงการดำเนินโครงการ Thai Rice GCF ผ่านการประชุมออนไลน์จากกรุงเทพฯ