โครงการการทำงานร่วมกันเพื่อการลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (CAP SEA) ดำเนินงานสำเร็จลุล่วงในประเทศไทยและมาเลเซีย
![Strategic partners that contributed to CAP SEA 1.0 received a certificate of appreciation from the Ministry of Economy of Malaysia. (Photo: Nadirah Abd Manaf, GIZ)](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/05/CASE-SEA-01.jpg)
หน่วยงานร่วมดำเนินการด้านยุทธศาสตร์ที่มีส่วนร่วมกับโครงการ CAP SEA 1.0 ได้รับใบเกียรติบัตรจากกระทรวงเศรษฐกิจ ประเทศมาเลเซีย (ภาพ: นาดีราห์ อับดุลมานาฟ, GIZ)
นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2563 ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2566 โครงการการทำงานร่วมกันเพื่อการลดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวภายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (CAP SEA – Collaborative Actions for the Prevention of Single-Use Plastics in South-East Asia) ได้ดำเนินการสนับสนุนประเทศมาเลเซียและไทย ในการพัฒนาแนวนโยบาย แผนการดำเนินงาน รวมถึงการทำงานร่วมกันกับภาคเอกชนเพื่อป้องกันและลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวและขยะบรรจุภัณฑ์
สำหรับประเทศมาเลเซีย โครงการ CAP SEA ประสบความสำเร็จในการสนับสนุนนโยบายและแผนพัฒนาเศรษฐกิจแห่งชาติมาเลเซีย ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2564 – พ.ศ. 2568) และได้สนับสนุนผู้กำหนดนโยบายในการร่างกรอบนโยบายการออกแบบเชิงนิเวศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากรจากผลิตภัณฑ์ในตลาดมาเลเซีย ภายใต้การนำของสำนักงานวางแผนเศรษฐกิจแห่งชาติ (Economic Planning Unit: EPU) ร่วมกับพันธมิตรของโครงการ ได้แก่ สถาบันวิจัยมาตรฐานและอุตสาหกรรมแห่งชาติ (The Standard and Industrial Research Institute of Malaysia: SIRIM) และกระทรวงเพื่อการพัฒนาการปกครองส่วนท้องถิ่น (The Ministry for Local Housing and Development: KPKT) นอกจากนี้ โครงการ CAP SEA ยังจัดการฝึกอบรมที่ปรึกษาทางเทคนิคให้แก่ผู้กำหนดนโยบายในการร่างกรอบนโยบายหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility: EPR) ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกำหนดทิศทางสำหรับการดำเนินงานขั้นต่อไป สำหรับการดำเนินงานของโครงการ CAP SEA ในระยะที่ 1 ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี โดยมีการจัดการประชุมเพื่อฉลองความสำเร็จให้แก่หน่วยงานพันธมิตรที่ร่วมดำเนินงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมีการเผยแพร่ความรู้ที่ได้จากการดำเนินโครงการที่ผ่านมา
สำหรับประเทศไทย โครงการ CAP SEA สนับสนุนความมุ่งมั่นในการต่อสู้กับปัญหามลพิษจากพลาสติกผ่านข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและการพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรม โดยสรุปแล้ว โครงการได้ให้การสนับสนุนการดำเนินงานตามเสาหลัก C ของแผนปฏิบัติการด้านการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Development: BCG) ผ่านการพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ครอบคลุมการป้องกันขยะพลาสติกและบรรจุภัณฑ์แบบใช้ครั้งเดียว ซึ่งข้อเสนอแนะเชิงนโยบายดังกล่าว ได้รับการรับรองโดยคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model ที่รายงานตรงต่อนายกรัฐมนตรี
เพื่อเพิ่มความสามารถในการรีไซเคิลบรรจุภัณฑ์พลาสติก โครงการ CAP SEA ได้พัฒนาการออกแบบอุตสาหกรรมสำหรับมาตรฐานการรีไซเคิล และร่วมมือกับสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.) และศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ (MTEC) ในการจัดทำมาตรฐานการออกแบบเพื่อการรีไซเคิลสำหรับผลิตภัณฑ์ จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ ขวดพลาสติกชนิด PET ภาชนะพลาสติกชนิด HDPE รวมถึงถ้วยและถาดพลาสติกชนิด PP หลังปรึกษาหารือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานบรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมด โดย สมอ. จะรับรองมาตรฐานดังกล่าวมาใช้เป็นมาตรฐานการตรวจสอบและรับรองแห่งชาติ และประกาศในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ไทยต้องอ้างอิงมาตรฐานนี้ในการทำบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลได้มากขึ้น
![Technical advisory training provided to policymakers from Ministry of Housing and Local Government to draft EPR Policy Framework for Malaysia. (Photo: Nadirah Abd Manaf, GIZ)](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/05/CASE-SEA-02.jpg)
การฝึกอบรมด้านเทคนิคให้แก่ผู้กำหนดนโยบายจากกระทรวงเพื่อการพัฒนาการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อร่างกรอบนโยบายหลักการขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิต (EPR) สำหรับประเทศมาเลเซีย (ภาพ: นาดีราห์ อับดุลมานาฟ, GIZ)
นอกจากนี้ โครงการ CAP SEA ยังสนับสนุนการจัดทำและดำเนินการตามแผนปฏิบัติการด้านการจัดการพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ผ่านโครงการนำร่องและการร่วมมือกับท้องถิ่น สำหรับประเทศมาเลเซีย ทางโครงการสนับสนุนการจัดตั้งชุมชนปลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวที่อาคารสภาเมืองชาห์อลาม (Majilis Bandaraya Shah Alam: MBSA) และที่โครงการนำร่องอพาร์ตเมนต์ที่พักอาศัยวิสตาอะลัม (Vista Alam) โดยทาง MBSA ได้เริ่มมาตรการจัดการพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวด้วยการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในอาคารของตนเอง ไม่แจกขวดน้ำพลาสติกระหว่างการประชุม และจัดเตรียมตู้กดน้ำภายในอาคารให้มากขึ้น รวมถึงใช้บรรจุภัณฑ์ที่ใช้ซ้ำได้แทนที่กล่องใส่อาหารและช้อนส้อมพลาสติก ส่งผลให้ชุมชนนำร่องซึ่งมีที่พักอาศัย 1,000 ยูนิต และธุรกิจค้าปลีก 30 แห่ง รวมถึงธนาคารและร้านอาหาร ต่างค่อย ๆ ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในหนังสือเวียนจาก MBSA เพื่อลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว และนำระบบการ “ใช้ซ้ำ” มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงร้านค้าจะไม่แจกจ่ายถุงพลาสติกอีกต่อไป นอกจากนี้ MBSA ยังสนับสนุนร้านอาหารที่มีมาตรการส่งเสริมการใช้ซ้ำให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย และกำลังขยายพื้นที่โครงการดี ๆ นี้ไปยังมหาวิทยาลัยท้องถิ่น เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมารา (Universiti Teknologi Mara) และโรงเรียนนานาชาติดวีเอมัส (Dwi Emas) เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชนของชาห์อลามมากขึ้น
![A banner with MBSA's circular can be seen in front of the building with their taskforce members. MBSA's taskforce create awareness, promote reuse and SUP reduction regularly to the community at Vista Alam. (Photo: Nadirah Abd Manaf, GIZ)](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/05/CASE-SEA-03.jpg)
สมาชิกปฏิบัติงานเฉพาะกิจของ MBSA ถ่ายรูปกับป้ายประชาสัมพันธ์ด้านหน้าอาคาร โดยสมาชิกปฏิบัติฯ ได้สร้างความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมการใช้ซ้ำ และลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวอย่างต่อเนื่องแก่ชุมชนที่ Vista Alam (ภาพ: นาดีราห์ อับดุลมานาฟ, GIZ)
สำหรับประเทศไทย โครงการ CAP SEA สนับสนุนจังหวัดและเทศบาลนครภูเก็ตในการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อป้องกันและลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว ทั้งนี้โครงการยังทำงานร่วมกันกับภาคธุรกิจต่าง ๆ ในจังหวัดภูเก็ต เช่น โรงแรม ศูนย์การค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และตลาด เพื่อพัฒนามาตรการและข้อเสนอแนะที่เป็นรูปธรรมที่ภาคธุรกิจเหล่านี้ สามารถนำไปปฏิบัติได้
![Awarding certificates to hotel staff who attended the “Green Champion” workshop on single-use plastic prevention measures in Phuket, Thailand (Photo: Anusara Tanpitak, GIZ)](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/05/CASE-SEA-04.jpg)
พิธีมอบเกียรติบัตรให้กับพนักงานโรงแรมที่เข้าร่วมการฝึกอบรม “Green Champion” ด้านมาตรการป้องกันการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-Use Plastic Prevention) ในจังหวัดภูเก็ต, (ภาพ: อนุสรา แท่นพิทักษ์, GIZ)
จากความสำเร็จของการดำเนินโครงการ CAP SEA ระยะที่ 1 ทางโครงการจึงเริ่มดำเนินการในระยะที่ 2 ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2566 จนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 โดยโครงการ CAP SEA จะยังคงสนับสนุนประเทศมาเลเซียเพื่อขับเคลื่อนนโยบายการออกแบบเชิงนิเวศและสนับสนุนการพัฒนากรอบกฎหมาย EPR ต่อไป สำหรับประเทศไทยนั้น โครงการ CAP SEA จะสนับสนุนความพยายามของกรุงเทพมหานครที่ต้องการลดการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และดำเนินงานด้านการออกแบบเพื่อการรีไซเคิลต่อไป
โครงการ CAP SEA ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณจากกระทรวงสิ่งแวดล้อม คุ้มครองธรรมชาติ ความปลอดภัยทางปรมาณูและคุ้มครองผู้บริโภค สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (German Federal Ministry for the Environment, Nature Conservation, Nuclear Safety and Consumer Protection: BMUV) และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการความร่วมมือระดับโลก “Export Initiative Environmental Protection” ซึ่งมีพันธกิจหลักในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการปกป้องสิ่งแวดล้อม การลดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ในประเทศพันธมิตร
ติดตามข้อมูลและข่าวสารของโครงการได้ที่นี่: The Collaborative Actions for Single-Use Plastic Prevention in Southeast Asia (CAP SEA) – German International Cooperation Based in Bangkok (thai-german-cooperation.info)
และทางแพลตฟอร์ม Greentech Knowledge Hub ของ Export Initiative Environmental Protection: https://greentechknowledgehub.de
คริสตอฟเฟอร์ บริค
หัวหน้าโครงการ CAP SEA
อีเมล: christoffer.brick(at)giz.de
ข่าวที่เกี่ยวข้อง