โครงการ SUPA จัดอบรมโดรนขั้นสูงให้เจ้าหน้าที่ และหนุนเสริมชุมชนให้ร่วมอนุรักษ์พื้นที่ป่าพรุของประเทศไทย
![](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/12/01-SUPA.jpg)
- ความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์ป่าพรุ – GIZ ประเทศไทยและเครือข่ายท้องถิ่นร่วมอนุรักษ์ป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความสมบูรณ์ของความหลากหลายทางชีวภาพและการปกป้องสภาพภูมิอากาศ เพราะเป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนขนาดใหญ่
- นวัตกรรมการฝึกอบรมโดรนโดย SUPA – การฝึกอบรมเชิงนวัตกรรมของ โครงการ SUPA ช่วยเพิ่มศักยภาพการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อการจัดการพื้นที่ป่าพรุและการจัดการไฟป่าที่ดีขึ้นให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน 30 คน
- หนุนเสริมพลังชุมชนในการอนุรักษ์ป่าพรุ – โครงการฯ หนุนเสริมผู้นำเครือข่ายท้องถิ่นมากกว่า 300 คนในพื้นที่เพื่อปกป้องป่าพรุ พร้อมยกระดับคนในท้องถิ่นให้กลายเป็นผู้พิทักษ์ป่าพรุ สร้างมาตรฐานใหม่ในการดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ตลอดเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โครงการการใช้พื้นที่ป่าพรุและการลดหมอกควันอย่างยั่งยืนในอาเซียน (SUPA) ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มหลักที่สำคัญของประเทศไทย ได้สร้างหมุดหมายสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วยการจัดฝึกอบรมการใช้โดรนขั้นสูงสำหรับเจ้าหน้าที่เพื่อส่งเสริมการจัดการระบบนิเวศ พร้อมกับการสร้างพลังให้กับชุมชนในการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยเน้นไปที่พื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราช
การฝึกอบรมผู้ฝึกสอนใช้เวลาทั้งหมดสี่วันและได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้ปฏิบัติงานสถานีควบคุมไฟป่า 30 รายที่มีทักษะขั้นสูงในการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อการติดตามและการจัดการป่าพรุและไฟป่าอย่างยั่งยืน ผู้เข้าร่วมได้รับการคัดเลือกจากสถานีควบคุมไฟป่าทุกแห่งในป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งถือเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่ใหญ่ที่สุดในลุ่มน้ำทะเลสาบสงขลาและนับเป็นสมบัติทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการกักเก็บคาร์บอนได้มากถึง 2,968,278,700 ตันต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งสูงกว่าป่าประเภทอื่นถึง 10 เท่า ตอกย้ำความสำคัญของป่าแห่งนี้ในระดับโลก
การฝึกอบรมนี้ไม่ได้เพียงให้ความรู้เกี่ยวกับการควบคุมโดรนเท่านั้น แต่ยังให้แนวทางที่ครอบคลุมในการเสริมสร้างความเข้าใจของผู้เข้าร่วมเกี่ยวกับการจัดการระบบนิเวศที่ยั่งยืน โดยการใช้โดรนประสิทธิภาพสูงกว่า 10 ลำที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการ SUPA พร้อมด้วยอุปกรณ์ควบคุมไฟป่าที่ทันสมัย ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ควบคุมไฟป่า และลดความเสี่ยงต่อป่าพรุที่เปราะบาง ซึ่งมีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพ วิถีชีวิตของชุมชนท้องถิ่น และเศรษฐกิจ
![](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/12/02-SUPA.jpg)
“Team of Change” โฉมหน้าแนวร่วมของโครงการ SUPA ประเทศไทย พร้อมยกระดับการอนุรักษ์ด้วยเทคโนโลยีโดรนล้ำสมัยเพื่อการจัดการพื้นที่ป่าพรุ
นอกจากการฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญแล้ว โครงการ SUPA ตระหนักดีว่าความสำเร็จในการอนุรักษ์ในระยะยาวขึ้นอยู่กับการมีส่วนร่วมและการดูแลของท้องถิ่น จึงมุ่งเน้นไปที่การฝึกอบรมผู้นำชุมชนและตัวแทนท้องถิ่นเกี่ยวกับเทคนิคการติดตามและการจัดการที่เป็นนวัตกรรมในป่าพรุควนเคร็ง จังหวัดนครศรีธรรมราชชลอดเดือนพฤศจิกายน
![](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/12/03-SUPA.jpg)
การฝึกอบรมมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 300 คน รวมถึงผู้นำชุมชนจากชุมชนต่างๆ โดยรอบพื้นที่ป่าพรุควนเคร็ง โดยหลักสูตรนี้ได้รับการออกแบบเพื่อให้ชุมชนมีทักษะในการใช้ข้อมูลระดับน้ำ ภาพถ่ายดาวเทียม และระบบ GPS ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ SUPA ที่นำระบบวัดปริมาณน้ำอัจฉริยะมาใช้ครอบคลุมพื้นที่ป่าพรุควนเคร็งทั้งหมดกว่าร้อยตารางกิโลเมตร
การฝึกอบรมเครือข่ายชุมชนนี้จัดขึ้นเพื่อบ่มเพาะให้ผู้คนในชุมชนรู้สึกเป็นเจ้าของพื้นที่และร่วมกันดูแลรับผิดชอบ พร้อมตั้งเป้าว่าหลังจากที่ชุมชนผ่านการฝึกอบรมจะช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับป่าพรุ และมีบทบาทสำคัญในการติดตาม สนับสนุน และร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ โดยการเคลื่อนไหวระดับชุมชนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างแบบจำลองที่ยั่งยืนสำหรับการจัดการป่าไม้และไฟ เพื่อให้มั่นใจว่าพื้นที่ป่าพรุจะคงอยู่ในสภาพที่ดีไปอีกนาน
การฝึกอบรมทั้งคู่สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในประเทศไทยที่ครอบคลุมและมีหลากหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการบูรณาการเทคโนโลยีขั้นสูง การฝึกอบรมวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการจัดการระบบนิเวศ นอกจากนั้น ยังเน้นถึงบทบาทที่สำคัญของชุมชนและการเสริมสร้างศักยภาพของผู้คนในการอนุรักษ์ธรรมชาติ ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่ยั่งยืนในการผสมผสานความเชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และการมีส่วนร่วมระดับชุมชน เพื่ออนุรักษ์ป่าพรุควนเคร็ง ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้กับพื้นที่ที่มีระบบนิเวศคล้ายกันทั่วโลก โดยโครงการนี้จะขยายวงไปสู่ประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซียต่อไป
โครงการ SUPA ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรป และรัฐบาลเยอรมันผ่านองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศของเยอรมัน (GIZ) มุ่งเน้นไปที่การจัดการพื้นที่ป่าพรุอย่างยั่งยืนในอาเซียน โครงการดำเนินงานระหว่าง พ.ศ. 2566-2567 โดยร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชของประเทศไทย ใช้งบประมาณ 38 ล้านบาท (เฉพาะในประเทศไทย) โดยมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนเป้าหมายของยุทธศาสตร์การจัดการพื้นที่ป่าพรุของอาเซียน (APMS พ.ศ. 2549-2563) ให้บรรลุผลสำเร็จ
![](https://www.thai-german-cooperation.info/wp-content/uploads/2023/12/04-SUPA.jpg)
โครงการ SUPA มีความภาคภูมิใจในการจัดหาเรือหางยาวจำนวน 5 ลำให้กับผู้ปกครองในท้องถิ่น เพื่อช่วยในการเฝ้าระวังและเสริมการปกป้องพื้นที่ป่าพรุของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ธวัฒชัย ปาละคะมาน
หัวหน้าทีมและผู้ประสานงานโครงการ SUPA Thailand
อีเมล: thawatchai.palakhamarn(at)giz.de
ข่าวที่เกี่ยวข้อง